วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ชีวิตใหม่

ชีวิตใหม่
โดย รินใจ 


       มารคมีธุระด่วนต้องเดินทางจากเชียงใหม่ลงมากรุงเทพ ฯ เผอิญเพื่อนสนิทซึ่งมีเครื่องบินส่วนตัวก็กำลังจะลงมากรุงเทพ ฯ เช่นกัน จึงชวนมารคนั่งเครื่องบินลงมาด้วยกัน
        เครื่องบินเล็กทะยานขึ้นฟ้าได้ไม่ถึงสิบนาที เครื่องก็ดับ เพื่อนซึ่งเป็นนักบินพยายามสตาร์ตเท่าไรก็ไม่ติด ชั่วขณะนั้นเองมารคตระหนักว่าวาระสุดท้ายของเขาใกล้มาถึงแล้ว คำถามตอนนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาและเพื่อนจะรอดหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าทำอย่างไรผู้คนข้างล่างจะไม่พลอยรับเคราะห์ไปพร้อมกับทั้งสอง คนด้วย
        เมื่อรู้ว่าตัวเองคงไม่รอดแน่แล้ว มารคทำใจยอมรับความตายโดยดุษณี เขาแปลกใจที่พบว่าจิตใจสงบนิ่งมาก ไม่มีความทุรนทุรายกระสับกระส่ายแต่อย่างใด ในภาวะนั้นเขารู้สึกดื่มด่ำเป็นอย่างยิ่งกับธรรมชาติรอบตัวและภูมิประเทศเบื้องล่าง ไม่ว่าทะเลเมฆสีขาวนวล เวิ้งฟ้าสีคราม และทิวเขาเขียวครึ้มข้างล่าง ล้วนงดงามตรึงใจ ระหว่างที่เครื่องกำลังร่อนลดระดับลงมาเรื่อย ๆ นั้น รอบตัวไร้สรรพสำเนียงใด ๆ มีแต่ความเงียบสงบ ภาพที่เห็นผ่านกระจกเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ แต่สงบงัน ในห้วงนั้นเขารู้สึกถึงความสงบและเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน
         ร่วม ๒๐ นาทีที่เขาได้สัมผัสกับความเบาสบายกลางฟ้า และแล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เครื่องยนต์ทำงานอีกครั้ง แต่ก็ดับอีก แล้วก็ติดใหม่ เป็นเช่นนี้ตลอดเวลา นักบินจึงตัดสินใจบังคับเครื่องกลับเชียงใหม่ และแจ้งสนามบินให้เตรียมพร้อม มีการเคลียร์รันเวย์และอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนของผู้คนที่สนามบิน เครื่องค่อย ๆ ร่อนลงอย่างปลอดภัย
        ช่างเครื่องได้ตรวจพบในเวลาต่อมาว่ามีน้ำเข้าไปในตัวเครื่อง เมื่อซ่อมเครื่องเสร็จเรียบร้อย เพื่อนก็ชวนมารคขึ้นเครื่องบินลำเดิมลงมากรุงเทพ ฯ อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งรอดตายมาอย่างไม่คาดฝัน มารครับคำชวนของเพื่อน คราวนี้ทั้งสองถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ

         มารครอดตายมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ถ้ามองให้ดีแล้วสิ่งที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นก็คือการที่เขารู้สึกเป็นสุข และสงบอย่างยิ่งในยามประจันหน้ากับความตาย คนทั่วไปนั้นรู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ประสบการณ์ของมารคชี้ว่าความตายนั้นไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวต่างหากก็คือความกลัวตาย เมื่อความกลัวตายมลายหายไป ความตายแม้จะอยู่ใกล้เพียงใด ก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ตรงกันข้ามมันกลับทำให้จิตใจเบาสบายเป็นอย่างยิ่งเพราะได้ปล่อยวางทุกอย่าง
        อะไรก็ตามหากเราหลีกหนีไม่ได้ อ้าแขนต้อนรับมันเป็นดีที่สุด เมื่อมารคยอมรับความตายโดยดุษณี ความตายก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป ใช่หรือไม่ว่าสาเหตุที่เรากลัวความตายก็เพราะเรายึดอะไรต่ออะไรอีกมากมาย ในเมื่อไม่อยากสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป เราจึงทำใจไม่ได้ ใจที่ยังยึดไว้ไม่ยอมปล่อยนี้แหละคือปัญหาเพราะมันเป็นแหล่งบ่มเพาะความกลัว ซึ่งคอยหลอกหลอนซ้ำเติมและสร้างความทุกข์ให้แก่เรา
        สเตฟานีเป็นอีกคนหนึ่งที่ผ่านความตายมาได้อย่างหวุดหวิด วันนั้นเธอขับรถอยู่บนทางด่วน สักพักก็เห็นรถจอดกันยาวเหยียด จึงต่อท้ายคิว เมื่อเหลือบมองกระจกหลัง ก็เห็นรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ไม่มีทีท่าว่าชะลอเลยทั้ง ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากรถของเธอ ดูเหมือนคนขับจะใจลอย เธอรู้ทันทีว่ารถของเธอต้องถูกชนอย่างแน่นอน และคงเป็นการปะทะที่รุนแรงเสียด้วย ชั่วขณะนั้นเองเธอตระหนักว่าตัวเองอาจไม่รอด
วินาทีนั้นเธอก้มลงดูมือทั้งสองซึ่งกำพวงมาลัยไว้แน่น เป็นครั้งแรกที่เธอตระหนักว่าเธอใช้ชีวิตด้วยความเครียดและเกร็งมาโดยตลอด เธอตัดสินใจในตอนนั้นว่า ฉันไม่ต้องการตายแบบนี้ เธอจึงหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ และทิ้งมือลงข้างตัว ปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามวิถีของมัน เธอยอมรับความตายโดยไม่ขัดขืน และแล้วรถคันหลังก็พุ่งชนรถของเธออย่างรุนแรงและดังสนั่น
         รถของเธอถูกชนจนยับเยิน ส่วนรถคันหลังก็แหลกไม่มีชิ้นดี แต่เธอกลับไม่เป็นอะไร ตำรวจบอกเธอในเวลาต่อมาว่าโชคดีที่เธอปล่อยตัวตามสบาย หากเธอเกร็งตัว มีโอกาสมากที่จะบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตเพราะแรงกระแทก
         สเตฟานีก้าวออกจากซากรถราวกับเป็นคนใหม่ เธอใช้ชีวิตด้วยความปล่อยวางมากขึ้น ไม่คิดจะควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามใจปรารถนา และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตได้มากขึ้น จากคนที่กุมชีวิตไว้แน่น บัดนี้เธอเพียงแค่ประคองมันเอาไว้ ราวกับชีวิตคือขนนกที่วางอยู่บนฝ่ามือ แล้วเธอก็พบว่าตนเองสามารถรื่นย์กับชีวิตได้อย่างแท้จริง
         อุบัติเหตุร้ายแรงได้นำชีวิตใหม่มาให้แก่สเตฟานี แม้ว่าเธอยังประสบกับความสำเร็จสลับกับความล้มเหลวเหมือนเดิม ได้รับคำชื่นชมควบคู่กับคำตำหนิเหมือนเดิม มีได้มีเสียเหมือนคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือจิตใจ ใจที่อ่อนโยนนุ่มนวลกับชีวิต ไม่คิดบังคับควบคุมทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต นี้ต่างหากที่ทำให้ชีวิตใหม่บังเกิดขึ้นอย่างแท้จริง 
*******
รวมมิตรจาก http://www.visalo.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น