วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ลูกสมองดีด้วย นิทาน ที่แม่อ่านให้ฟัง

ลูกสมองดีด้วย นิทาน ที่แม่อ่านให้ฟัง

 จากนิตยสารMother & Care   

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
          ารอ่านนิทานเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่มีข้อมูลวิชาการยืนยันถึงข้อดีที่มีต่อตัวลูกน้อย ที่ยังไม่รู้ภาษาหรือจะนับย้อนไปตั้งแต่ในท้องก็ได้ ถ้าพ่อแม่ใช้หนังสือนิทานกับลูกอย่างสม่ำเสมอ และใช้อย่างถูกวิธี
          มาเตรียมพร้อมกับการใช้หนังสือเป็นสื่อกลาง เพื่ออ่าน เล่า และเล่นไปกับลูกน้อยด้วยวิธีง่าย ๆ และรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของนิทานกันดีกว่า

           หนังสือดีต่อสมอง
           ขณะที่คุณอ่านนิทานให้ลูกฟัง จะช่วยสร้างความสุขให้ลูก ส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ทางบวก และเมื่อลูกมีความสุข สมองก็ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
           เมื่อลูกได้ฟังนิทานบ่อย ๆ จะช่วยให้ลูกจดจำคำศัพท์เร็วขึ้น เพราะเส้นใยประสาทในสมองที่เกี่ยวกับการจดจำ จะพัฒนาไปพร้อมกับความทรงจำ
           การสัมผัสหนังสือภาพผ่านการมองตั้งแต่ยังเล็ก เป็นการสร้างสุนทรียภาพและจินตนาการในตัวเด็ก เพราะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของเด็กอย่างลึกซึ้ง
           เนื้อหาเรื่องราวจากหนังสือนิทาน เป็นเสมือนประสบการณ์การเรียนรู้ ที่บางครั้งเป็นเหมือนสิ่งส่งเสริมให้ลูกอยากรู้ อยากทำหรือเห็นถึงผลเสียของ

           หนังสือ ยังเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง ที่ช่วยให้ลูกสนุกและเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น สัมผัสผิวกาย ลูกน้อยจะค่อย ๆ ซึมซับรูปร่าง ท่าทาง และน้ำเสียงมีความรู้สึกร่วมไปกับการฟัง น้ำเสียงที่คุณพ่อคุณแม่เล่าก็สื่อสารไปถึงลูก และเมื่อเซลล์สมองได้รับข้อมูล มีการส่งผ่านข้อมูลไปยังสายใยประสาทรับข้อมูล โดยมีจุดเชื่อมต่อระหว่างกัน ข้อมูลที่มีส่งผ่านมาบ่อยๆ จะทำให้จุดเชื่อมใยประสาทมีความแข็งแรง และแตกตัวมากขึ้น เป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง เป็นที่มาของคำตอบด้านความฉลาดของลูกตัวน้อย ๆ นั่นเองค่ะ

           เตรียมตัวก่่อน
           เตรียมอารมณ์ของคุณแม่ให้ผ่อนคลายมีความสุข และสนุกกับการได้อ่านได้เล่าให้ลูกฟัง
           สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อช่วงเวลาของครอบครัว เป็นเวลาที่พ่อแม่ได้อุ้มลูกนั่งตัก สื่อรักด้วยหนังสือ
           เลือก หนังสือที่เหมาะกับวัยของลูก และเตรียมน้ำเสียงที่อบอุ่น ชวนลูกดูและฟังก็ล้วนส่งผลทำให้เซลล์สมองของลูกทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ ผ่านการมองเห็น และได้ยิน นำไปสู่จินตนาการและความคิดที่สร้างสรรค์
           
           เริ่มเลย
           ชวนลูกฟังนิทาน ด้วยการออกเสียงเรียกความสนใจพร้อม ๆ กับอุ้มลูกนั่งตักแล้วเล่านิทานให้ลูกฟัง พูดคุยกับลูกถึงภาพที่เห็นในหนังสือนิทาน
           การใช้น้ำเสียง คำพูดที่สื่อความหมายให้เข้าใจง่าย ๆ และออกเสียงชัดเจน เช่น เสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ หรือใช้เสียงธรรมชาติของพ่อแม่เล่าเรื่อง ก็สามารถทำให้ลูกสนุกได้เหมือนกัน
           ส่งสายตาระหว่างที่คุณอ่านกับลูก เพื่อช่วยสื่อให้ลูกรักรู้ถึงความรัก ความอบอุ่น พร้อม ๆ ไปกับความสนุกและการเรียนรู้ที่ดีได้
           ท่าทางที่มีความสุข สนุกของคุณแม่ประกอบการเล่า เช่น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ โดยสัมพันธ์กับเนื้อเรื่อง หรือมีอุปกรณ์ทำหุ่นมือหรือตุ๊กตาผ้าประกอบ ก็สามารถทำให้การเล่านิทานของคุณแม่มีสีสัน เติมจินตนาการของลูกได้มากขึ้น
           ควรสังเกตท่าทีของลูก ว่าต้องการฟังหรือต้องการทำกิจกรรมอื่น ๆ หรือไม่ เพราะไม่ควรฝืนอ่าน จนลูกรู้สึกหงุดหงิดไม่ประทับใจกับการฟังคุณเล่านิทานได้ค่ะ
           ถ้าอยากให้ลูกเกิดความเคยชิน ก็ต้องอ่านให้ฟังเป็นประจำ เท่าที่คุณและลูกน้อยสะดวก เช่น ช่วงเวลาก่อนนอน เป็นต้น เริ่มต้นอ่านได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งส่งผลดีต่อลูกน้อยค่ะ
           ถ้าลูกน้อยของคุณแทะกัดหรือฉีกหนังสือไปบ้าง ก็อย่าว่ากล่าวหรือถึงกับลงโทษลูก เพราะความสนใจของลูกเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กวัยเบบี๋ ดังนั้นควรเลือกหนังสือที่เหมาะกับวัยของลูก ทั้งเนื้อหา คุณภาพ รูปเล่ม และวัตถุดิบในการนำมาผลิต
           อ่านและ เล่านิทานอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำจนลูกเกิดความเคยชิน และรักหนังสือไม่เฉพาะนิทานแต่เป็นหนังสือความรู้ทั่วไป

           นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างคุณธรรมและความดีให้เกิดขึ้นกับลูกสุดที่รักด้วย
*******
           ข้อมูลสุดมีค่าจากhttp://women.kapook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น